วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

งานประจำปีวัดโกรกกราก

เดินทางมาถึงบล็อกสุดท้ายกันแล้วๆๆๆ คราวที่แล้วได้เกริ่นถึงประวัติวัดโกรกกรากไปแล้วว่าทำไมพระที่นี่ถึงใส่แว่นดำ คราวนี้ต้องขอเล่าเรื่องราวว่าทำไมจึงต้องจัดงานประจำปีวัดโกรกกรากขึ้นทุกปี 



ครั้งหนึ่งมี หมอไสยจอมขมังเวทเกิดความโลภ มองเห็นหลวงพ่อปู่เป็นทองทั้งองค์ ตกดึกจึงลักลอบเข้าไปเจาะตรงช่องท้องเพื่อเอาทองคำ และก็ไม่สามารถทำได้ตามประสงค์ เพราะหลวงปู่กรับลงไปทำวัตรเช้าพบเข้าพอดี แม้จะให้ความเมตตาไม่เอาความ แต่หลังจากนั้นก็มีอาการบ้าคลั่งเสียสติและเสียชีวิต

การลักลอบโจรกรรมครั้งนั้นทำให้ บริเวณช่องท้องหลวงพ่อปู่ชำรุด หลวงปู่กรับจึงได้บูรณะซ่อมแซม  โดยนำทองคำคลุกรักปิดทับรอยชำรุด ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือนยี่ จึงได้ถือเอาวันนี้  จัดงานเฉลิมฉลอง เรียกว่า...วันแซยิดหลวงพ่อปู่

ทุกๆปี...จะมีมหรสพฟรีฉลองกันอย่างครบครัน เพื่อให้ผู้ศรัทธาตั้งแต่ระดับรากหญ้าถึงไฮโซประทับใจและได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน

สำหรับในปี 2560 ก็จะมีการจัดจัดงานประจำปีปิดทององค์หลวงพ่อปู่และหลวงปู่กรับ วัดโกรกกราก ในวันที่ 12-18 มกราคม 











และนี่จะเป็นภาพบรรยากาศงานประจำปีวัดโกรกกราก 



ต้องขอบอกว่าไฟวัดนี้จัดเต็มมาก





โซนเครื่องเล่น




เครื่องเล่นอันนี้อย่างเสียว
และนี่คือผลของการเล่นเครื่องเล่นเครื่องนั้น



บ้านผีสิง
รถไต่ถัง

ในช่วงบ่ายวันแรกจะมีการเปิดงานด้วยการปล่อยลูกโป่งและจะมีนักเรียนจากโรงเรียนเทศบาลวัดโกรกกรากมารำเปิดงานด้วย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ งานประจำปีวัดโกรกกราก 2560



สมัยก่อนตัวเราเองก็ได้มีโอกาสได้ไปรำเปิดงานเช่นกัน


                     




ละในช่วงหัวค่ำคืนแรกในงานของทุกปี จะมีการเชิ้ดสิงโตและมังกร







4 วันหลังคืนสุดท้ายจะมีกาารแข่งขันกีฬาตะกร้อลอดบ่วง


ในคืนวันสุดท้ายจะมีการประกวดสาวประเภทสองและจะมีการจุดพุเพื่อปิดงาน



เป็นยังไงกันบ้างค่ะ ในปี 2560 นี้ ใครสนใจก็แวะมาเที่ยวกันได้นะคะ มหรสพชมฟรีตลอดงาน




บ๊ายบาย


วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วัดโกรกกราก

สวัสดีค่ะก็กลับมาพบกับบล็อกเกือบอันสุดท้ายแล้วนะคะ สำหรับครั้งนี้จะขอมาแนะนำวันแถวบ้านเรานะ ซึ่งก็คือ "วัดโกรกกราก" จ.สมุทรสาคร 

หลายคนคงแปลกใจกันนะคะว่าทำไมพระพุทธรูปวัดนี้ถึงต้องใส่แว่นตาดำ ดังนั้นวันนี้เราจึงนำประวัติที่เราได้ศึกษามาตั้งแต่ตอนอยู่ ป.3 (เป็นการบ้านที่ครูสั่ง 555) ไม่ต้องสงสัยกันนะว่าทำไมครูสั่ง โรงเรียนที่เราเรียนตอนประถมชื่อ "โรงเรียนเทศบาลวัดโกรกราก (กรับวิทยาทาน)" โรงเรียนจะอยู่ใกล้กับวัดเลย นอกเรื่องล่ะ 55555 มากลับเข้าเรื่องกันดีกว่า ^_^


......ต้องขอบอกก่อนเลยว่าที่วัดโกรกรากนี้ไม่ได้ใหญ่และหรูหรา เป็นเพียงโบถส์เล็กๆที่ทำมาจากไม้สัก แต่กลับเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมาก จะมีผู้คนจากต่างถิ่นมากราบสักการะที่วัดนี้ทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ คนจะเยอะมากกกก 


หลวงพ่อปู่วัดโกรกกราก

หลวงพ่อปู่...เป็นพระพุทธรูปศิลาแลง เดิมประดิษฐานอยู่วัดช่องสะเดาอันเป็นวัดร้าง ชาวรามัญ “บ้านกำพร้า” จึงได้อัญเชิญลงเรือพอล่องมาถึงหน้าวัดโกรกกรากเป็นวัดเก่าแก่แห่งลุ่มน้ำมหาชัย ตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีน ได้เกิดพายุพัดจึงได้จอดเทียบท่า แล้วพากันยกองค์พระขึ้นไว้บนฝั่ง (เกรงเรือจะล่ม)

เมื่อเหตุการณ์สงบจะยกลงเรือเพื่อเดินทางต่อ แต่ยกอย่างไรก็ไม่ขึ้น ชาวรามัญคนหนึ่งจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า หากพระศิลาแลงองค์นี้จะอยู่วัดโกรกกราก...ก็ขออัญเชิญไปประดิษฐานยังพระอุโบสถ 

ปรากฏว่า  ยกขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จึงประดิษ- ฐานอยู่วัดโกรกกรากมาตั้งแต่บัดนั้น...!!


ส่วน พระครูธรรมสาคร “หลวงปู่กรับ  ญาณ-วัฑฒโน” เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 5 เกิดในสมัย พระพุทธ-เจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ในปี 2463 และอุปสมบทในปี 2456 ปี 2463 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เป็นอริยสงฆ์ที่ทรงวิทยาคมสูง ประกอบคุณความดีมาโดยตลอดจนถึงกาลอวสานชีวิตในปี 2517 

หลวงปู่กรับ

เพื่อเป็นอนุสรณ์ในความดี หลังละสังขาร ทางวัดจึงได้สร้างรูปปั้นของหลวงปู่กรับไว้ในพระ อุโบสถ เหล่าศิษยานุศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้และปิดทองจนเหลืองอร่าม
สำหรับการนำแว่นตามาสวมใส่ให้ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน บอกว่า...อาจจะเป็นเพราะว่าหลวงปู่กรับในอดีตเมื่อยังมีชีวิตอยู่ท่านสวมแว่นประจำ หรืออาจจะเป็นเพราะผู้ที่มาบนบานได้ตามประสงค์ จึงเอาแว่นตามาแก้บนดั่งเช่นหลวงพ่อปู่...ก็เป็นได้


พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ

พระพระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ ยังบอกต่อว่า อีกหนึ่งของการเล่าขานซึ่งเชื่อมโยงกับพลังอิทธิฤทธิ์ โดย ช่วงแรกๆ ก็มีคนเอาแผ่นทองคำมาปิดตาเต็มไปหมด ตามแรงศรัทธาหลังจากหายป่วย


“...เมื่อหลวงปู่กรับเป็นเจ้าอาวาสจึงได้สร้างกุศโลบายโดยเอาแว่นตามาสวมใส่ให้กับหลวงพ่อปู่ เพื่อมิให้ปิดทองที่ดวงตา จากนั้นชาวบ้านโกรกกรากและใกล้เคียง จึงแก้บนด้วยแว่นตา...”

...จึงสืบสานถึง ทุกวันนี้ผู้ประสบโรคเกี่ยวกับตาทุกชนิดนอกจากรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว มักจะมาบนกับหลวงพ่อปู่ด้วย โดยมีคติความเชื่อว่าจะหายจากโรคทีเป็นอยู่ได้ และ เมื่อหายแล้วก็จะ เอาแว่นตามาถวายให้ทั้งคู่  (หลวงพ่อปู่กับหลวงปู่กรับ)...







อ้างอิง : http://www.thairath.co.th/content/319678

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Beauty Blogger "อชิ อาชิตา"

สวัสดีค่าา กลับมาพบกันในบล็อกที่ 8 แล้วนะคะ สำหรับคราวนี้ก็จะพาไปรู้จักกับ Beauty Blogger เน็ตไอดอลคนดัง ที่ตัวเราเองก็ติดตามผลงานการทำคลิปของเขามาตลอดเช่นเดียวกัน สาวสวยที่ว่านี้ก็คือ "อชิ อาชิตา" ได้ยินชื่อแล้ว เพื่อนๆคงพอจะรู้จักกันบ้างนะคะ


ประวัติส่วนตัว

       ชื่อ : อาชิตา ศิริภิญญานนท์
       ชื่อเล่น : อาชิ
       วันเกิด : 27 พฤษภาคม 2536

       น้ำหนัก : 45 กิโลกรัม
       ส่วนสูง : 167 เซนติเมตร
       การศึกษา : จบการศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
       ผลงาน : Beauty Blogger , ถ่ายแบบนิตยสาร , งานพิธีกร และเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ ‘Archita’





เริ่มติดตามได้ยังไง? >>> โดยส่วนตัวเริ่มรู้จักพี่อชิจากการดูยูทูป ตอนนั้นเราหาเกี่ยวกับการทำผมไปเรียน และได้บัญเอิงไปเจอวีดีโออันนี้ของพี่อชิ




พอดูไปแล้วก็รู้สึกชอบถึงวิธีการพูดการนำเสนอที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แอ๊บ ไม่น่าเบื่อ และน่าฟัง เลยเข้าไปกดดูทุกคลิปในช่องหลักของพี่อชิ พอดูไปแล้วคือแบบ...มันติดใจ คือหลงใหลในรอยยิ้ม คำพูด น่ารักจริงๆ จากนั้นเรากดติดตามเขาในทุกช่องทาง ทั้งทางยูทูป , IG , facebook


ยูทูปจะมี 2 ช่องช่องแรกจะเป็น How to การแต่งหน้าทำผม : https://www.youtube.com/channel/UClshsyv7mLwBxLLfSSwLAFQ/featured

อีกช่องจะเป็น Lifesty การแต่งตัว : https://www.youtube.com/channel/UCcyQZ8y-StgrRWXX96zQYxQ

IG : architasiri
     : architastyie

facebook : https://www.facebook.com/Architapage/


และนอกจากจะทำคลิปลงยูทูปแล้ว ยังขายของเป็นแบรนด์ของตัวเอง ทั้งที่เจลเขียนคิ้ว , อายแชร์โด , บลัชออนแบบเจล





>>>> ไปดูคลิปบางส่วนของพี่อชิกันดีกว่า



















วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559

deep sleep iphone

สวัสดีค่ะก็กลับมาพบกันอีกครั้งในบล็อกที่ 7 แล้วนะคะ ครั้งนี้เป็นปัญหาที่เจอมากับเองในเรื่องของโทรศัพท์มือถือ จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอะไรยังไงไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

อาการของมันก็คือ ใช้ๆ อยู่มือถือดับไปเฉยๆ คามือ ไม่ได้ทำอะไรพลิกแพลง ไม่ได้ทำตกพื้น อยู่ดีๆ กดปุ่ม Home กดปุ่ม Power ก็ไม่ได้ ดับไปเฉยๆ เหมือนร่างไอโฟนที่ไร้วิญญาณ 


สรุปแล้วไอโฟนมีอาการดังนี้ เปิดไม่ติด จอดับ ปิดไม่ได้ สั่นก่อนจะดับ แต่ดันโทรเข้าได้ ดับเองด้วย แบทก็ยังเต็ม ไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย







เลยหาข้อมูลจาก Google ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ก็เลยเจอวิธีการแก้ปัญหา คือ


มันคือ กดปุ่ม Home + Power พร้อมกัน
เขาบอกให้ลองกดประมาณ 10 วินาที บางตำราบอก 30 วินาที บางตำราให้ชาร์จไปด้วย กดไปด้วย (ปล.แต่วิธีเรายังไม่เคยใช้นะ เพราะว่าปุ่มโฮมของเราพังจึงไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ได้ เลยไม่รู้ว่ามันได้ผลจริงหรือป่าว แต่ที่ดูจากความเห็นของคนในเน็ตบอกว่าได้ผลจริง)

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

เทศกาลถือศีลกินเจ

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ สำหรับบล็อกที่ 6 นี้เราเขียนขึ้นในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจพอดีเลย และตัวเราเองก็กินเจด้วยเช่นกัน ดังนั้นวันนี้ก็จะขอมานำเสนอความรู้เล็กๆน้อยๆของการถือศีลกินเจให้เพื่อนๆได้รู้กันนะคะ 





สำหรับเทศกาลถือศีลกินเจในปี 2559 นี้ มีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 ตุลาคม แต่เราก็ต้องกินเจก่อน 1 วัน นั่นก็คือวันที่ 30 กันยายน เป็นการล้างท้องเพื่อชะล้างเนื้อสัตว์ อาหารคาวต่างๆที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมด เพื่อให้ร่างกายสะอาดเตรียมพร้อมในการถือศีลกินเจ




จุดประสงค์หลักของการกินเจ 


          1. กินเพื่อสุขภาพ เพราะอาหารเจเป็นอาหารชีวจิต เมื่อกินติดต่อกัน จะทำให้ร่างกายสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้ และปรับระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้มีเสถียรภาพ 

       2. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากทุก ๆ วัน อาหารที่เรากินประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้ที่มีจิตใจดีงามจึงไม่สามารถกินเนื้อของสัตว์เหล่านั้นได้  

       3. กินเพื่อเว้นกรรม เพราะการฆ่าเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าเองก็ตาม เพราะการซื้อผู้อื่นเท่ากับการจ้างฆ่า ถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย ผู้ที่เข้าใจเรี่องกฎแห่งกรรมจึงหยุดกิน หันมารับประทานอาหารเจแทน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ให้อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น 



ข้อห้ามในการกินเจ

1. งดเว้นเนื้อสัตว์ และห้ามทำร้ายสัตว์
2. งดนม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์
3. งดอาหารรสจัดทั้งอาหารเผ็ด หวานจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด
4. งดผักหรือเครื่องดเทศที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย รวมทั้งใบยาสูบและของมึนเมาต่าง เพราะดังกล่าวเป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง
5. ไม่ใช้จานชามปะปนกัน และต้องกินอาหารที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงขึ้นมา (สำหรับคนที่เคร่ง)
6. งดดื่มสุราและของมึนเมาทุกชนิด


>>>> และในการหาซื้ออาหาร ขนมเจนั้น บางทีเราอาจไม่รู้ว่าอันไหนเจอันไหนไม่เจ ดั้งนั้นเพื่อความชัวร์ให้เราดูที่สัญลักษณ์หรือธงสีเหลือง








การกินเจไม่ยากอย่างที่คิด ตัวเราเองกินผักไม่เป็นก็ยังสามารถกินได้มาตั้งหลายปี เพื่อนคนไหนยังไม่เคยกินเจก็ลองกินดูสักปี นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังอิ่มบุญอีกด้วยนะคะ



บ๊ายบาย








วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

รวบรวมทริคเด็ดๆในการช่วยสอบ

สวัสดีค่าาาาาาา

>>>>>> ก็กลับมาพบกันอีกครั้งกับบล็อกที่ 5 แล้วนะคะ และในเร็วๆนี้พวกเราก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาของการสอบกันแล้วนะคะ ดังนั้นวันนี้จะขอมาแนะนำทริคเด็ดๆในการทำคะแนนสอบให้พุ่งปริ๊ดดดดด

..............แต่ต้องขอบอกก่อนนะคะว่าทริคที่จะมาแนะนำนี้ไม่ใช่การมาช่วยติวหรือเกร็งข้อสอบแต่อย่างใดนะคะ แต่มันคือ "ทริคนางฟ้า" ที่รวบรวมมาจากหลายความเชื่อในหลายๆประเทศ จะมีทริคอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลยยยยย :)))))))




1. ทริค "สลักเครื่องหมายช่วยให้คะแนนพุ่ง"    ถ้าอยากให้คะแนนสอบออกมาไม่ขี้เหร่หรือว่าอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องสอบซ่อมล่ะก็ เมื่อได้รับกระดาษคำตอบมาแล้ว ก่อนลงมือทำข้อสอบให้วาดรูป "ดาวโซโรม่อน" (วิธีวาดคือวาดรูปสามเหลี่ยมสองรูปซ้อนกันโดยให้อีกอันหัวทิ่มลง) บนกระดาษด้านหลังคำตอบ ขณะที่เขียนให้อธิฐานในใจว่า "ขอให้คะแนนสอบออกมาดีด้วยเถิด" >> คะแนนที่ได้จะดีขึ้นผิดหูผิดตา


2. ทริค "เก็งข้อสอบได้ตรงเผง"    ถ้าอ่านหนังสือเตรียมสอบจนตาลาย แต่เดาไม่ถูกว่าจะออกตรงไหน ให้ถือหนังสือหรือสมุดโน้ตไว้ แล้วอธิฐานในใจว่า "เทพเมลครีลีอุสเอ๋ย ช่วยบอกจุดที่จะออกข้อสอบให้ด้วยเถิด" แล้วก็สุ่มเปิดลงไป พลังของคาถาจะช่วยให้หน้าที่มีเนื้อหาตรงกับข้อสอบปรากฎขึ้นมา จากนั้นก็ให้อ่านหน้านั้น หรือจะท่องก็ไม่ว่ากันนะคะ


3. ถ้าอยากได้คะแนนดี // นำปากกาสีแดง 3 ด้ามกับที่ประดับผมสีทองใส่ในกล่องดินสอ + ผูกผมหางม้า


4. กระทืบเท้าขวาก่อนเข้าห้องสอบจะทำให้สอบผ่าน 


5. คาถาท่องก่อนสอบ อิติ อิติ อิติ โสทะโร นะมา พุทโธ ยะยะถา


6. ทริค 'อ่านหนังสือซึมซับ'
    หัวสมองของคนเรามันก็เหมือนกับฟองน้ำ  ที่จะซึมซับความทรงจำต่าง ๆ แต่ทำไม้ทำไมเรื่องหนังสือเรียนมันถึงซึมไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนเรื่องอื่น ๆ  บ้างน้า  ทริคนี้จะช่วยให้สมองของเธอจดจำเรื่องในบทเรียนได้มากขึ้น  ให้เธออ่านบทเรียนที่ต้องการ  เอาแค่อ่านให้ผ่าน ๆ ตา  ไม่ต้องซีเรียสมาก  แต่อย่าเผลอหลับซะก่อนล่ะ  เมื่ออ่านเสร็จให้เธอเอาหนังสือเล่มนั้นเก็บเข้ากระเป๋า แล้วกลั้นหายใจตบที่กระเป๋า  3 ที่   ก่อนจะเปิดกระเป๋าก็ทำอย่างเดียวกัน  พลังที่เธอผนึกลงไปจะช่วยปลุกความรู้ที่เธออ่าน  ตื่นขึ้นมาทำงานได้อยางมีประสิทธิ์ภาพ


7. ทริค 'เครื่องรางจากคนเรียนเก่ง'    

    ถ้าเธอรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในการเรียน  เพราะคะแนนที่ได้มัน  วูบ ๆ  วาบ ๆ ไม่ค่อยคงเส้นคงวายังไงพิกล  เดี๋ยวสอบได้เดี๋ยวสอบหล่นอยู่เรื่อย  จำเป็นต้องใช้เครื่องรางช่วย  ให้เธอไปขอปากกาจากคนที่เรียนเก่ง  จะเป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่ก็ได้  แต่จะต้องเป็นด้ามที่เค้าใช้แล้วเท่านั้น  ทางที่ดีให้เธอซื้อปากกาอันใหม่เพื่อเพื่อเอาไปแลกกับของเค้า  แล้วพกปากาด้ามนั้นติดตัวไว้เป็นประจำ  แต่นำมาใช้เฉพาะตอนสอบเท่านั้น  พลังของเครื่องรางจากคนเก่งจะทำให้การเรียนของเธอไม่อัพแอนด์ดาวน์อีกต่อไป


>>>>จบไปแล้วสำหรับทริคเด็ดๆในการช่วยให้สอบผ่าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าทรีคที่ได้แนะนำมานี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล บางคนทำแล้วก็ได้ผล บางคนก็ไม่ได้ผล (เราเองก็เคยลองทำตามทุกข้อเมื่อสมัยตอนอยู่ ม.ปลาย มันก็ไม่ได้ช่วยให้คะแนนเราดีขึ้นหรอกนะแต่ในขณะที่ทำข้อสอบอยู่มันจะช่วยให้เรามั่นใจในการทำข้อสอบมากขึ้น) เพราะฉะนั้นทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ในการสอบนั้นจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและการอ่านหนังสือด้วยเช่นกัน แต่ลองทำดูก็ไม่เสียหานะคะ 


...บ๊ายบาย... 

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

แนะนำซีรีย์จีนที่เคยดูและภาพยนต์จีนผลงานของ "เฉินหลง"

สวัสดีค่ะ สำหรับบล็อกที่แล้วเราก็ได้แนะนำซีรี่ย์ทางฝั่งเกาหลีไปแล้วนะคะ มาคราวนี้ขอเปลี่ยนมาเป็นทางฝั่งประเทศจีนกันบ้างดีกว่า


เริ่มจากเรื่องแรกที่ดูเมื่อสมัยวัยละอ่อน น่าจะประมาณตอน ป.6 นั่นก็คือเรื่อง "องค์หญิงกำมะลอ ภาค 1-2" 



นี่มัน องค์หญิงหวนจูหรือเสี่ยวเยี่ยนจือ ในตำนานเลยนะ เพื่อนๆคุ้นหู คุ้นตากับเรื่องนี้บ้างมั้ยค่ะ >>> ตอนนั้นพอเลิกเรียนปุ๊บจะรีบกลับบ้านในทันทีเพื่อกลับมาดูเรื่องนี้ที่ทางช่อง 3 นำมาฉาย

นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการดูซีรี่ย์ของประเทศจีนเรื่องแรก จนเริ่มเป็นติ่งหนังจีนมาหลายเรื่องและหลายแนวพอสมควรโดยเฉพาะแนวกำลังภายในจะชอบเป็นพิเศษ แต่ต้องบอกก่อนว่าก็เลือกดูเฉพาะนักแสดงที่รู้จักเท่านั้นหรือถ้าไม่รู้จัก เรื่องนั้นก็ต้องสนุกจริงๆถึงได้ดู

ถ้างั้น มาต่อด้วยเรื่องต่อไปเลยดีกว่า


"ไซอิ๋ว" เชื่อว่าเพื่อนๆคงเคยดูเรื่องนี้กันมาแล้ว เรื่องนี้มันให้ข้อคิดที่ดีหลายอย่างนะ ดูแล้วอยากจะเดินทางไปชมพูทวีปเพื่ออันเชิญพระไตรปิฎกด้วยคน 555



"นาจา เทพจอมอิทธิฤทธิ์" เรื่องนี้มันเป็นเรื่องก่อนที่จะมีไซอิ๋ว เป็นการเล่าเรื่องของนาจาก่อนที่จะไปทำงานที่สวรรค์ เรื่องนี้จะเน้นเรื่องของครอบครัว เพราะนาจาได้เลาะเนื้อคืนพ่อ เลาะกระดูกคืนแม่ ทำให้สวรรค์ลงโทษนาจาเพราะเป็นกระทำที่บาป (ปล.พระเอกคนนี้เล่นเป็นซุนหงอคงในไซอิ๋วภาค 2 ด้วยนะ)



"เปาปุ้นจิ้น" ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ เพลงต้องมา 555 <เปาปุ้นจิ้นชอบกินไข่เต่า...> แต่เรื่องนี้เราไม่ได้ดูทุกตอนนะ แต่รับประกันว่ามันต้องสนุกทุกตอน



"เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาค 3" เรื่องนี้สนุก การแต่งตัวเริ่มเยอะขึ้นนะ บางชุดนี่แบบจะเยอะไปไหน นักแสดงหน้าตาดี บู๊กันกระจาย ปีศาจเยอะดี



วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

แนะนำซีรี่ย์เกาหลีที่เคยดู

ที่ผ่านก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนที่ติดซีรี่ย์ได้เหมือนกัน เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยชอบอะไรที่เกี่ยวกับเกาหลีซะเท่าไหร่ :((((

แต่ก็เคยมีดูผ่านหูผ่านตาบ้างที่ช่อง 7 ชอบเอาฉายตอนเช้าเสาร์-อาทิตย์ อาทิ

Full House สะดุดรักที่พักใจ  

Princess Hours เจ้าหญิงวุ่นวาย กับ เจ้าชายเย็นชา 

Coffee Prince รักวุ่นวายขอเจ้าชายกาแฟ 

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

ผมลอน "คนจน"

กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะกับบทความเรื่องใหม่ กับชื่อใหม่คนเดิม :)

คราวที่แล้วก็ได้แนะนำการติดฟิล์มไปแล้ว คราวนี้ขอเปลี่ยนแนวมาเป็นเรื่องความสวยความงามบ้างดีกว่า

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ติดฟิล์มมือถือ...ด้วยตัวเอง

...สวัสดี...


เราชื่อใหม่นะ พอดีเราเคยเปิดร้านขายเคสและติดฟิล์มโทรศัพท์มาก่อน ทำให้ได้รับวิชาการติดฟิล์มมือถือมาอยู่บ้าง เลยจะมาแนะนำการติดฟิล์มมือถือให้เพื่อนได้ลองไปฝึกติดเอง

ไม่ยากเลยนะ แต่ต้องใช้สมาธินิดหน่อยและที่สำคัญบริเวณห้ามมีละอองฝุ่นเด็ดขาด


"มาเริ่มกันเลยดีกว่า"  สิ่งที่ต้องเตรียมในการติดฟิล์ม





1> ฟิล์ม เอาที่เราสะดวกใจเลยค่ะ มีทั้งแบบด้าน แบบใส แบบกระจก อย่างของเราก็เลือกเป็นฟิล์มกระจกมา



2> สก๊อตเทปใสพร้อมแท่นเพื่อความสะดวกในการดึง ไม่แนะนำให้ใช้สก๊อตเทปใสอันเล็กเพราะความเหนียวไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เอาอับประมาณกลางๆไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป



3> สเตคลีน ใช้สำหรับเช็ดหน้าจอมือถือ



4> ผ้าสำหรับเช็ดหน้าจอมือถือ (ผ้าจะแถมมากลับฟิล์ม)


รู้อุปกรณ์กันไปหมดแล้ว งั้น...มาเริ่มติดฟิล์มกันเล้ยยยย